แพทย์ทหารห่วงประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังการจมน้ำ ไฟดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย

 แพทย์ทหารห่วงประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังการจมน้ำ ไฟดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย

ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศฝนตกหนัก ถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย อาจทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ในบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูง หรือน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงนี้มาโดยตลอดนั้น
ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และแพทย์ทหาร มีความห่วงใยต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ได้รับผลกระทบ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังภัยสุขภาพ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายและได้รับบาดเจ็บ เช่น การจมน้ำ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต และสัตว์มีพิษกัดต่อย เป็นต้น ที่น่าห่วงคือ การจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา จากสถานการณ์การจมน้ำในช่วงอุทกภัยเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา พบการจมน้ำเสียชีวิตถึง 82 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุด (ร้อยละ 34.1) รองลงมาคือ 45-59 ปี (ร้อยละ 29.3) เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ร้อยละ 14.6 อายุต่ำสุดคือ 2 ปี เป็นเพศชาย ร้อยละ 74 เพศหญิง ร้อยละ 26 กลุ่มผู้ใหญ่ สาเหตุหลักที่พบคือ พลัดตก ลื่น  เรือล่ม/พลัดตกเรือ ออกหาปลา ส่วนกลุ่มเด็ก สาเหตุหลักที่พบ คือ การเล่นน้ำในพื้นที่น้ำท่วม (เล่นกันเองเป็นกลุ่ม) รองลงมา คือ เดินลุยน้ำและถูกน้ำพัด และพลัดตก ลื่น โดยการดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนเกี่ยวข้องถึง ร้อยละ 13.4 ทั้งนี้สาเหตุที่มีสุราเกี่ยวข้องและจมน้ำมากที่สุดคือ เรือล่ม/พลัดตกเรือ เล่นน้ำ จุดเกิดเหตุพบมากที่สุด คือ บ้าน/บริเวณรอบบ้าน รองลงมาคือในทุ่งนาที่มีน้ำท่วม ส่วนการเสียชีวิตที่พบรองลงมาคือ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้า สาเหตุเกิดจากเข้าไปตัดไฟในบ้าน น้ำท่วมขังบ้านพัก ขับรถไถ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง
         คำแนะนำ เพื่อป้องกันการจมน้ำในช่วงน้ำท่วม ขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “4 ห้าม 4 ให้” ดังนี้
4 ห้าม ได้แก่
  1) ห้ามหาปลาในช่วงน้ำไหลหลาก  
  2) ห้ามดื่มสุราแล้วลงเล่นน้ำ เนื่องจากจะเสี่ยงเกิดตะคริวได้สูง รวมทั้งหากเมาสุรา จะทำให้เสียการทรงตัว และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  
  3) ห้ามเดินผ่านหรือขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม เพราะระดับน้ำเพียง 6 นิ้ว จะทำให้รถเสียหลักและล้มได้   
  4) ห้ามเด็กเล็กลงเล่นน้ำ อาจพลัดตกหรือถูกน้ำพัดได้
         4 ให้ ได้แก่
  1) ให้อพยพไปยังพื้นที่สูง ให้รีบออกจากพื้นที่ในกรณีเกิดน้ำท่วม  
  2) ให้สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝาและผูกเชือก
  3) ให้เดินทางเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือกันเวลาฉุกเฉิน  
  4) ให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร สภาพอากาศ ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
สำหรับการป้องกันไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต ในช่วงน้ำท่วมก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติดังนี้ 1) สับคัทเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟ 2) ย้ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และปลั๊กไฟขึ้นที่สูง  3) อย่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะร่างกายเปียกหรือยืนแช่น้ำอยู่ และ 4) หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำเข้าใกล้ปลั๊กไฟ สายไฟ เสาไฟ หากเกิดไฟฟ้ารั่วจะมีกระแสไฟกระจายเป็นวงกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร อาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตได้
         นอกจากนี้ ขอแนะนำการป้องกันสัตว์มีพิษกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ที่อาจหนีน้ำมาหลบซ่อนอาศัยอยู่ตามบ้านและมุมมืดต่างๆ คือ 1) สอดส่องและสังเกตมุมอับของบ้านเป็นประจำ 2) สำรวจเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนสวมใส่ทุกครั้ง 3) หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรแต่งตัวให้มิดชิด และสวมรองเท้าบูททุกครั้ง
จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่ากองทัพภาคที่ 3 โดย โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ หรือโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตทุกโอกาส

********************************

คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
26 สิงหาคม 2565




ความคิดเห็น